
เครื่องเติมอากาศมีกี่ชนิดกันแน่นะ
เครื่องเติมอากาศถือว่าหัวใจสำคัญของการทำงานในระบบบำบัดน้ำเสียแบบใช้ออกซิเจนจากอากาศ เนื่องจากถ้าขาดออกซิเจนในระบบบ่อบำบัดน้ำเสีย จะทำให้จุลินทรีย์ที่อยู่ในนั้นไม่สามารถทำงานได้
หรือ ถ้ากรณีมีปริมาณออกซิเจนละลายน้ำสูงไป ก็ทำให้สามารถบำบัดน้ำได้ดีและรับน้ำเสียได้มากขึ้น ซึ่งเครื่องเติมอากาศในปัจจุบันก็มีอยู่อยู่หลายหลายชนิด เช่น
1. AIR PUMP
2. THREE LOBES BLOWER
3. REGENERATIVE BLOWER
4. AERATOR หรือ EJECTOR
เครื่องเติมอากาศ แต่ะชนิดก็มีจุดประสงค์และลักษณะเด่นของการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปตามระบบการทำงานของเครื่องเติมอากาศ ดังต่อไปนี้
1.AIR PUMP
คือเครื่องเติมอากาศที่สามารถผลิตกำลังแรงลมได้ตั้งแต่ 10 -4250 ลิตร/ นาที โดยมีหลักการทำงาน 2 ประเภท
1.1 Double Diaphragm คือ หลักการทำงานของแผ่นไดอะแฟรม ในการผลิตลมได้สูงสุดไม่เกิน 200 ลิตร/ นาที ที่แรงดัน 2 เมตรน้ำ ซึ่งมีความเร็วลมออกมาสม่ำเสมอ และ ประหยัดพลังงานกว่าเครื่องเติมอากาศแบบอื่นๆ
1.2 Rotary Vane Type คือหลักการทำงานของการหมุนใบพัด (VANE)ให้สามารถผลิตกำลังแรงลมออกมา โดยมีกำลังแรงลมสูงสุดไม่เกิน 4250 ลิตร/นาที ที่แรงดัน 2 เมตรน้ำ เวลาที่เครืองเติมอากาศชนิดนี้ทำงานจะมีเสียงเบา และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน


2.THREE LOBES BLOWER
คือเครื่องเติมอากาศที่สามารถผลิตกำลังแรงลมได้ตั้งแต่ 270 – 191,300 ลิตร/นาที โดยมีหลักการทำงาน 2 ประเภท
2.1 THREE LOBES BLOWER TYPE SPUR ROTOR มีหลักการทำงานแบบ THREE LOBES แบบตรง จำนวน 2 อัน และทำการหมุนเพื่อผลิตลมออกมา ดูแลรักษาง่ายกว่า แบบ SUBMERSIBLE
2.2 THREE LOBES BLOWER TYPE HELICAL ROTOR มีหลักการทำงานแบบ THREE LOBES แบบเกลียว จำนวน 2 อัน และทำการหมุนเพื่อผลิตลมออกมา เสียงเบากว่า THREE LOBES แบบตรง
3. REGENERATIVE BLOWER
คือเครื่องเติมอากาศที่สามารถผลิตกำลังแรงลมได้ตั้งแต่ 650 – 10,200 ลิตร/นาที มีหลักการทำงานแบบหมุนใบพัด ใน 1 พัดจะมีหลายซีกเพื่อส่งแรงลมระหว่างซีกเพื่อเพิ่มแรงดันลม เป็นชนิดที่มีปริมาณลมมากกว่าชนิดอื่น


4. SUBMERSIBLE AERATOR or SUBMERSIBLE EJECTOR คือ เครื่องเติมอากาศที่สามารถผลิตกำลังลมได้ตั้งแต่ 133 – 6,666 ลิตรต่อนาที โดยต้องแช่ตัวปั้มลงไปในน้ำ และทำการดูดอากาศจากด้านนอกบ่อลงไป ซึ่งจะทำการดูแลรักษายากที่สุด และโอกาสเสียมากที่สุด